Welcome to WordPress. This is your first post. Edit or delete it, then start writing!
Welcome to WordPress. This is your first post. Edit or delete it, then start writing!
หลังจากสมาร์ตโฟนเรือธงระบบ Android หลายรุ่น ได้อัปเกรดไปใช้ชิปเซตเรือธง Snapdragon 8 Elite ของ Qualcomm แล้วนั้น ดูเหมือนแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มเดินหน้าอัปเกรดแท็บเล็ตเรือธงด้วยชิปเซต Snapdragon 8 Elite ด้วยเช่นกัน
ล่าสุด Kartikey Singh (@That_Kartikey) ได้โพสต์บน X อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าววงใน ระบุว่า Xiaomi กำลังพัฒนาแท็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่ที่จะใช้ศักยภาพจากชิปเซต Snapdragon 8 Elite ด้วยเช่นกัน โดยมีแผนจะเปิดตัวภายในปี 2025
Snapdragon 8 Elite เป็นชิปเซตระดับเรือธงที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดในปัจจุบัน ซึ่งมาพร้อมแกนซีพียู จำนวน 8 คอร์ ดังนี้
เมื่อเดือนตุลาคม 2024 ที่ผ่านมา Xiaomi ได้เปิดตัวแท็บเล็ตระดับพรีเมียมรุ่นรองท็อปอย่าง Pad 7 Pro ซึ่งใช้ศักยภาพจากชิปเซตระดับพรีเมียม Snapdragon 8 Gen 3 ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงถึง 3.33 GHz (ซีพียู Arm Cortex-X4), จอ LCD ขนาด 11.2 นิ้ว ความละเอียด 3,200 x 2,136 พิกเซล, แรมสูงสุด 12 GB, สตอเรจสูงสุด 512 GB, กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ความจุ 8,850 mAh
ดูเหมือนว่าตลาดเครื่องเกม PC แบบพกพายังคงร้อนระอุ ก่อนหน้านี้ Lenovo ก็ได้เพิ่งเปิดตัว Legion Go Gen 2 ไปหมาด ๆ ล่าสุดถึงคิว Acer ที่ได้เปิดตัว Nitro Blaze 8 และ Nitro Blaze 11 ในงาน CES 2025 โดยจุดเด่นที่น่าสนใจจะอยู่ที่เครื่องรุ่น Nitro Blaze 11 ที่อาจจะเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาที่หน้าจอใหญ่ที่สุดไปแล้ว เพราะมันมีหน้าจอใหญ่ถึง 10.95 นิ้ว กันเลย หน้าจอสัมผัส WQXGA รีเฟรชเรต 144 Hz ที่ให้ความสว่างสูงสุด 500 nits ถือว่าเวลาถืออยู่ในมือใหญ่เหมือนเรากำลังเล่นเกมบน iPad Pro กันเลย
ส่วนชิปของ Nitro Blaze 11 จะมาพาร้อมกับ AMD Ryzen 8040HS, แรม LPDDR5X 16GB และความจุสูงสุด 2TB นอกจากนี้ Nitro Blaze 11 ยังมีคอนโทรลเลอร์แบบถอดได้ แบบเดียวกับ Joy-con ของ Nintendo Switch และมาพร้อมขาตั้งในตัว และรองรับ จอยสติ๊ก Hall Effect และปุ่มด้านหลังสองปุ่ม
นอกจากนี้ Acer ยังเปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพกที่มีขนาดเล็กกว่า ในชื่อ Nitro Blaze 8 มีขนาดเล็กกว่ามาก โดยมีหน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว โดยมีสเปกเหมือนกับ Nitro Blaze 11 แต่ไม่สามารถถอดคอนโทรลเลอร์ได้ และไม่มีขาตั้ง ซึ่งก็เหมือนกับ Nintendo Switch Lite
Acer Nitro Blaze ทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 โดย Nitro Blaze 11 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,099.99 เหรียญ หรือประมาณ 38.000 บาท ส่วน Nitro Blaze 8 จะมีราคาเริ่มต้นที่ 899.99 เหรียญ หรือประมาณ 31,000 บาท
L’Oréal เผยถึงนวัตกรรมในงาน CES 2025 ‘Cell BioPrint’ ที่จะจัดการกับปัญหาจุกจิกในการรักษาผิวกาย เพียงแค่ติดเทปบนแก้ม ใช้เวลา 5 นาที ก็จะได้ผลวิเคราะห์และผลประเมินของผิวเราว่าตอบสนองต่อส่วนผสมที่พบในสกินแคร์ต่าง ๆ อย่างไร ทำให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเราได้ ไม่ต้องลองผิดลองถูกอีกต่อไป
เบื่อไหมกับการเปลี่ยนสกินแคร์มาหลายตัวก็ยังไม่เจอที่เหมาะกับเราสักที งั้นบอกลาการลองผิดลองถูกในการดูแลผิวไปได้เลย เพราะ ‘Cell BioPrint’ จาก L’Oréal และ NanoEnTek ทีมสตาร์ตอัปจากเกาหลี ที่เปิดตัวในงาน CES 2025 นวัตกรรมนี้จะช่วยจัดการปัญหาความไม่แน่นอนในการรักษาผิวโดยการวิเคราะห์ตัวเซลล์ผิวและประเมินความเหมาะสมของเซลล์ผิวที่มีต่อส่วนผสมต่าง ๆ ในสกินแคร์ ซึ่งวิธีใช้มีเพียง 3 ขั้นตอน ดังนี้
อย่างไรก็ตาม เรื่องราคาและระยะเวลาการเปิดให้ใช้งานที่ชัดเจนยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่ทาง L’Oréal กล่าวว่าจะนำ Cell BioPrint ไปทดสอบใช้งานในเอเชียภายในปี 2025
ที่มา : beartai , https://www.beartai.com/tech/it-news/1449407
นับถอยหลังเตรียมเข้าสู่งานแสดงนิทรรศการระดับโลก World Expo 2025 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นบนพื้นที่ของเกาะยูเมะชิมะ (Yumeshima) ระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ภายใต้แนวคิดหลัก “Designing Future Society for Our Lives” การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ เพื่อเป้าหมายชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพดี ซึ่งการที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ไปแสดงศักยภาพสาธารณสุขไทยบนเวทีโลก
โดยย้อนกลับไป ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อให้เกิดพฤติกรรมและวิถีชีวิตแบบใหม่ที่ประชาชนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยมุ่งเน้นในเรื่องการป้องกันมากกว่าการรักษา ส่งผลให้ตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจด้านการดูแลสุขภาพทั่วโลก จากสถาบันด้านสุขภาพสากล หรือ Global Wellness Institute (GWI) คาดการณ์ว่ามีแนวโน้มขยายตัวสูง 8.6% ต่อปี จนถึงปี พ.ศ. 2570 โดยมีมูลค่าตลาดสูงกว่า 8.5 ล้านล้านเหรียญฯ หรือมูลค่ากว่า 306 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2563
ขณะที่ในปี พ.ศ. 2568 คาดว่าเศรษฐกิจสุขภาพทั่วโลกจะมีมูลค่าอย่างน้อย 7 ล้านล้านเหรียญฯ หรือ 230 ล้านล้านบาท จากการคาดการณ์มูลค่าตลาดทำให้ประเทศไทยเล็งเห็นโอกาสในการสร้างเม็ดเงินมหาศาลจากเศรษฐกิจสุขภาพ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Ignite Thailand ในด้านการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งเป็น 1 ใน 13 หมุดหมายสำคัญ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงมีนโยบายยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพในทุก ๆ ด้าน รวมไปถึงการผลักดันให้ไทยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก (Medical and Wellness Hub) เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
การเข้าร่วมงาน World Expo 2025 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ถือเป็นโอกาสอันดีในการประชาสัมพันธ์ให้นานาชาติได้เห็นศักยภาพและความพร้อมทางการแพทย์ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดไปสู่โอกาสสำคัญให้กับประเทศไทยในหลายด้าน อาทิ
สำหรับอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ที่จัดขึ้นในงาน World Expo 2025 จะตั้งอยู่ในพื้นที่ A13 โซน Connecting Lives ได้รับการจัดให้อยู่ในรูปแบบการก่อสร้างแบบ Type A หมายถึงประเทศที่ได้รับพื้นที่ขนาดใหญ่ มีการออกแบบและดำเนินการก่อสร้างเอง ทำให้สามารถสะท้อนถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรม ศักยภาพของประเทศไทยได้อย่างเต็มที่
โดยมีแนวคิดหลักในการออกแบบคือ “ภูมิพิมาน ดินแดนแห่งภูมิคุ้มกัน” เพื่อสะท้อนความเป็นไทยและศักยภาพสาธารณสุขไทยสู่สายตาของนานาชาติในหลากหลายมิติ ผ่านการตีความอัตลักษณ์ของไทย ซึ่งมีทั้งความงดงามและอ่อนช้อยเพื่อสอดแทรกลงไปในอาคาร ด้วยการลดทอนองค์ประกอบของศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยโบราณให้ผสานเข้ากับวิธีก่อสร้างสมัยใหม่ เช่น ใช้เทคนิคย่อมุมที่อยู่บนยอดอาคารมณฑป ซึ่งเป็นลักษณะ “ทรงจอมแห” เป็นรูปทรงของหลังคาและมีระดับสูงต่ำตามลักษณะการใช้งานของพื้นที่ภายใน เพื่อให้ใช้พลังงานและทรัพยากรเท่าที่จำเป็นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังสอดแทรกลวดลายจักสานของเฉลวมาประกอบเพื่อแสดงความเชื่อและภูมิปัญญาของคนไทย รวมทั้งการใช้สีสันและรูปแบบวัสดุแบบไทย ๆ ที่มีความละเมียดละเอียดลออ เพื่อสะท้อนภูมิปัญญาด้านวัสดุ งานฝีมืออันประณีต ทำให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสถึงความละเมียดละไมของศิลปะสถาปัตยกรรมไทยที่ประยุกต์ใช้กับวัสดุและวิธีการก่อสร้างสมัยใหม่
รูปทรงอาคารในครั้งนี้ถูกออกแบบให้เป็นทรงครึ่งจั่ว โดยมาจากความตั้งใจแรกที่ผู้ออกแบบได้นำความสมดุลของหน้าจั่วแบบสถาปัตยกรรมไทยมาเป็นแรงบันดาลใจ แต่ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ตั้งอาคาร ซึ่งมีหน้าแคบและลึกยาว จึงแก้ปัญหานี้ด้วยการลดทอนอาคารให้เหลือเพียงครึ่งจั่ว และสร้างผนังกระจกสูงขนาบข้างอาคารยาวตลอดแนว เกิดเป็นเทคนิคภาพสะท้อน เมื่อมองจากด้านหน้าทางเข้าหลักจะได้เห็นจั่วของอาคารที่สมบูรณ์
ในส่วนบริเวณด้านหน้าอาคารแสดงประเทศไทย (Thailand Pavilion) ได้นำประติมากรรม “เฉลว” ตัวแทนความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ คู่กับประติมากรรม “ช้าง” ตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ อายุยืนยาว และสัญลักษณ์แห่งการต้อนรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีมาสคอตตัวแทนประเทศไทยมาเป็นสัญลักษณ์นำโชค โดยมีชื่อว่า “น้องภูมิใจ” ที่มีแนวคิดการออกแบบมาจาก “แมงสี่หูห้าตา” ที่มาพร้อมสิ่งวิเศษทั้ง 4 ได้แก่
พร้อมกับพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “THAILAND Connecting Lives for Greatest Happiness” สร้างสรรค์ชีวิตเพื่อความสุขที่ยิ่งใหญ่ และ Thai-Smile Connecting Happiness World Destination ยิ้มสยามที่ก่อให้เกิดความสุขเป็นเป้าหมายปลายทางของคนทั่วโลก โดยหยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยตั้งแต่ ภูมิจากธรรมชาติ ภูมิจากวิถี วัฒนธรรม นวัตกรรม จนถึงภูมิคุ้มกันจากศักยภาพและความพร้อมด้านสาธารณสุข มาสื่อสารเพื่อเชื่อมต่อชาวโลกให้เข้าถึงภูมิปัญญา และอัตลักษณ์แบบไทยผ่านบรรยากาศของดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากร และวิถีของผู้คนที่ช่วยสร้างภูมิให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ
1 หมุดหมายสุขภาพโลก (World’s Destination for Healthcare and Wellness)
ปักหมุดอาคารนิทรรศการไทย ร่วมทำสัญลักษณ์ถ่ายภาพเช็กอินเพื่อแชร์ “ดินแดนแห่งภูมิคุ้มกัน” ให้ทั่วโลกได้รู้จักประตูบานแรกที่เปิดให้ก้าวเข้ามาสัมผัสดินแดนแห่งความกินดี อยู่ดี มีภูมิคุ้มกันสไตล์ไทย ๆ โดดเด่นสะดุดตา ด้วยการนำสถาปัตยกรรมไทยรูปทรง “จอมแห” มาผสมผสานให้เกิดรูปทรงหลังคาอาคารที่มีความเป็นไทยร่วมสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างลงตัว โดยมี “น้องภูมิใจ” มาสคอตตัวแทนประเทศไทยรอต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตร
10 มนต์เสน่ห์ของประเทศไทย (Enchantments of Thailand)
บริเวณพื้นที่ด้านนอกอาคาร จัดแสดงประติมากรรมสำรับอาหารขนาดใหญ่ที่ภายในอัดแน่นไปด้วยมนต์เสน่ห์ของประเทศไทย ประกอบไปด้วย ภูมิประเทศ, ทรัพยากร, อาหาร และความเป็นอยู่แบบไทย ๆ ที่คนทั่วโลกต่างหลงใหล พร้อมนำเสนอวิถีการกินอย่างไทย เช่น สำรับแซ่บไทยเมนูอาหารจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสมุนไพรช่วยปรับสมดุลในร่างกาย สำรับภูมิดีผลผลิตเด่น, สินค้าเกษตรและผลไม้ขึ้นชื่อนานาชนิด, วิถีความเป็นอยู่อย่างไทย เช่น สำรับเทศกาลไทยประเพณีสงกรานต์ตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม รวมทั้งวิถีสุขภาพดีอย่างไทย เช่น ฤาษีดัดตน ซึ่งเป็นภูมิปัญญานวดแผนไทย ที่ได้รับการบันทึกไว้เป็นมรดกโลกปี 2019 เป็นการบริหารร่างกายของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งเน้นการฝึกลมหายใจและใช้สมาธิร่วมด้วย จึงเป็นทั้งการบริหารร่างกายและบริหารจิต รวมทั้งช่วยในการบำบัดอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นได้ในระดับหนึ่ง ร่วมตามหาเคล็ดลับอายุวัฒนะในประเทศไทย ดินแดนแห่งความมั่งคั่งด้านสุขภาพ ภายในโรงภาพยนตร์ Wisdom of life Immersive Theater ผ่าน Concert Hall มหรสพรูปแบบใหม่ที่ถ่ายทอดความงดงามของภูมิวิถี, ธรรมชาติ, ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์, การบริการ เเละรอยยิ้มของผู้คน ด้วยจอฉายภาพขนาดยักษ์สูงกว่า 5 เมตร พร้อมระบบแสงสีเสียงสุดล้ำ มอบประสบการณ์ที่สมจริง เกินจินตนาการ ที่ช่วยสร้างภูมิทางกายและภูมิทางใจให้แข็งแกร่ง เพราะสมดุลของ “กาย ใจ” คือความมั่นคงด้านสุขภาพที่สมบูรณ์ที่สุด
100 ศักยภาพสาธารณสุขไทย (Potentialities of Thai Public Health System) 100 สิ่งสร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางการแพทย์โลก เพื่อส่งมอบสุขภาพที่ดี พร้อมสร้างความเชื่อมั่นด้วยศักยภาพสาธารณสุขไทยทั้ง 4 ด้าน ที่จะขับเคลื่อนให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก (Medical and Wellness Hub) ได้แก่ Medical Service Hub, Wellness Hub, Product Hub, Academic Hub รวมถึงพืชสมุนไพร Herbal Champion ที่สามารถยกระดับให้ไทยเป็นดินแดนที่พร้อมดูแลและปกป้องทุกชีวิตได้ในอนาคต
1,000 สถานบริการทางการเเพทย์ (Medical Facilities) กว่า 1,000 สถานบริการเพื่อสุขภาพที่ตอบรับคนทั้งโลก ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ รักษา ฟื้นฟูตลอดจนการพักผ่อนระยะยาวที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ประเทศไทยเป็นดินแดนเป้าหมายสุขภาพดีรองรับสังคมแห่งอนาคต สามารถเข้าถึงได้จากจำนวนสถานบริการทางการแพทย์ที่หลากหลาย ครอบคลุมการรักษาทุกโรคและได้มาตรฐานสากล เช่น JCI, HA ฯลฯ พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพที่แสดงให้เห็นว่าธรรมชาติของไทยสามารถฟื้นฟูทั้งร่างกายเเละเยียวยาจิตใจได้ผ่าน Immersive Experience ของ “Thai Nature Therapy”
10,000 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เรียนรู้สรรพคุณของวัตถุดิบในหลากหลายเมนูอาหารของไทย ผ่าน Interactive Game มาร่วมถอดรหัส DNA อาหารไทย เป็น “ยาที่อร่อยที่สุดในโลก” รวมถึงสำรับอาหารจากภูมิปัญญาไทยทั่วทุกภูมิภาค อันหลากหลายครบรสที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารในทุกฤดูกาล ที่มาพร้อมสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน สู่การสร้างสรรค์เมนูอาหารเพื่อสุขภาพมากมาย
100,000 ผลิตภัณฑ์สร้างภูมิคุ้มกัน พื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมภูมิจากประเทศไทย ทั้งเครื่องแต่งกาย ของแต่งบ้าน อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าที่ระลึก รวมถึงโปรแกรมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ที่ทุกคนล้วนเข้าถึงสุขภาพดีในแบบไทย ๆ ได้
1,000,000 รอยยิ้มแห่งความประทับใจ พื้นที่รวบรวมล้านความรู้สึกประทับใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ได้มีส่วนร่วมแบ่งปันรอยยิ้ม เสริมภูมิทางใจให้กับคนทั่วโลก
พร้อมกันนี้ ได้มีการจัดให้มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย บริเวณหน้าทางเข้าหมุนเวียนให้ชมในแต่ละวันตลอด 6 เดือนเต็ม รวมทั้งการแสดงกิจกรรมพิเศษโอกาสต่าง ๆ, การแสดงวันเฉลิมฉลองของชาติไทย และการแสดงความสัมพันธ์ ไทย-ญี่ปุ่น 138 ปี ฯลฯ ที่จะมาสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจและความประทับใจแก่ผู้ที่มาร่วมชมงาน รวมทั้งนิทรรศการและกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ จากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาร่วมจัดกิจกรรม
จากการประมาณการคาดว่าจะมีประเทศสมาชิกและองค์กรระหว่างประเทศจากทั่วโลกเข้าร่วมงานในครั้งนี้ประมาณ 28.2 ล้านคน ซึ่งจากจำนวนผู้เข้าร่วมงานดังกล่าว คาดว่าจะมีประเทศกลุ่มเป้าหมายที่ประเทศไทยมุ่งขยายตลาดเศรษฐกิจสุขภาพเข้าร่วมงานอีกเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น, กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) 6 ประเทศ คือ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย, รัฐคูเวต, รัฐสุลต่านโอมาน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, รัฐกาตาร์, ราชอาณาจักรบาห์เรน รวมถึงกลุ่มประเทศ CLMV คือ ราชอาณาจักรกัมพูชา, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รวมทั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพเพื่อดึงดูดนักลงทุนกลุ่มทางการแพทย์ รวมทั้งนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ สามารถต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทั่วประเทศให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมหาศาล
สำหรับผู้ที่สนใจงาน World Expo 2025 สามารถร่วมสัมผัสเสน่ห์ของอาคารนิทรรศการไทย ภายในงาน World Expo ได้ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568 และติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thailand Pavilion World Expo 2025
กลุ่มนักเขียนกล่าวหาว่า Meta ใช้หนังสือผิดลิขสิทธิ์มาใช้ฝึก AI ภายใต้ความเห็นชอบจากซีอีโอ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg)
ทา-เนฮีซี โคเตส (Ta-Nehisi Coates) ซาราห์ ซิลเวอร์แมน (Sarah Silverman) และนักเขียนคนอื่น ๆ ยื่นฟ้อง Meta ในคดีการละเมิดลิขสิทธิ์ ในเอกสารคำสั่งที่เผยแพร่สู่สาธารณะชี้ว่าเอกสารภายในของ Meta เผยให้เห็นว่าบริษัทรู้ดีว่าหนังสือที่นำมาใช้ฝึก AI เป็นเวอร์ชันที่ละเมิดลิขสิทธิ์
นอกจากนี้ กลุ่มโจทก์ยังขออนุญาตศาลในการยื่นคำฟ้องที่ได้รับการปรับปรุงเนื้อหา โดยชี้ว่ามีหลักฐานใหม่ที่ระบุว่า Meta ใช้ชุดข้อมูล LibGen ที่รวมงานเขียนละเมิดลิขสิทธิ์หลายล้านฉบับ และเผยแพร่อยู่บนแพลตฟอร์มทอร์เรนต์ ในการฝึก AI
ในเอกสารยังระบุอีกว่า ซักเคอร์เบิร์กเป็นผู้อนุมัติการนำชุดข้อมูล LibGen มาใช้ แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านและการแสดงความกังวลจากผู้บริหารฝั่ง AI และพนักงานใน Meta ก็ตาม
ที่มา : beartai
https://www.beartai.com/tech/it-news/1450424
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า vivo กำลังพัฒนาสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ vivo X200s ที่จะเปิดตัวในปีนี้ด้วยชิป Dimensity 9400+ โดยแม้จะมีการพูดถึงเฉพาะ X200s แต่ก็มีการลุ้นว่า vivo จะเปิดตัว X200s Pro กับ X200s Pro mini ด้วยหรือไม่
รายงานล่าสุดจาก Digital Chat Station เผยว่า vivo จะเปิดตัวเฉพาะ X200s เท่านั้น และจะไม่มีการเปิดตัว X200s Pro หรือ X200s Pro mini อย่างที่มีการคาดหวังเอาไว้
สำหรับ vivo X200s ที่กำลังจะเปิดตัวนั้นนอกจากจะได้อัปเกรดชิป Dimensity 9400+ แล้วยังลือว่า รุ่นนี้จะใช้หน้าจอ LTPS OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K และเป็นไปได้ว่า X200s จะเปิดตัวพร้อมตัวเลือกสีใหม่ที่แตกต่างไปจากไลน์อัป X200 ที่เปิดตัวมาแล้วในปัจจุบัน
ที่มา : beartai , https://www.beartai.com/tech/it-news/1450263
เอ็ม เอ็นเตอร์ไพรส์ ยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด มุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันดิจิทัลที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ เพื่อมุ่งเน้นบริการสำหรับเดินทาง ส่งพัสดุ ส่งอาหาร รวมถึงระบบชำระเงินออนไลน์ที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย
เอ็ม เอ็นเตอร์ไพร์ส ยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด
เลขที่ 161/9 บ.ร่ำเปิง ม.5 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
02-0955124